ถังอากาศ
ถังอากาศ
สำคัญที่สุดถ้าไม่มีเจ้าถังนี้อย่างอื่นก็ไม่ต้องพูดถึง หน้าที่คือเก็บอากาศสำหรับที่เราจะใช้หายใจเมื่อเราอยู่ใต้น้ำ ถังมีหลายขนาดแต่ขนาดมาตรฐานคือ 11.5 ลิตร ไม่ใช่ว่าบรรจุอากาศได้ 11 ลิตรนะครับ เห็นถังเล็กๆ ยังงี้มันอัดอากาศได้เท่ากับอากาศในห้องนอนของคุณทั้งห้อง ( ห้อง 3 x 3.5 เมตร ) ถังนี้ทนแรงดันได้สูงสุด 320 Bar หรือประมาณ 4700 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เจอศัพท์เทคนิคหน่อยอย่าเพิ่งงงนะครับ พูดง่ายๆ ก็คือทนแรงอัดได้ 320 เท่าของความดันปกติที่รอบตัวเรา แต่การใช้งานจริงๆ จะอัดอากาศกันประมาณ 200 Bar ถังหนึ่งจะดำได้นานประมาณ 40-50 นาทีในกรณีที่ไม่ดำลึกมาก อากาศที่อัดลงในถังก็คืออากาศรอบๆ ตัวเรา ถังอากาศจะมาพร้อมกับวาวส์หัวถังมีไว้ให้เปิดเมื่อใช้ ปิดเมื่อเลือกใช้ สายที่เราจะหายใจต้องเอามาต่อต่างหาก
การจัดการกับอากาศที่ใช้(Gas Planning)
นักดำน้ำแบบ Tec โดยทั่วไป จะต้องเลือกส่วนผสมของอากาศ ที่จะใช้ในการดำน้ำ ความรู้เบื้องต้นของคนที่ดำน้ำแบบนี้ เรื่องแรกจึงเป็นเรื่องของการดำน้ำ โดยใช้อากาศที่มีส่วนผสมของออกซิเจน ที่แตกต่างกับอากาศธรรมดา (Enriched Air Nitrox) นักดำน้ำจะเลือกส่วนผสมของอากาศ ที่เหมาะสมกับความลึก เวลา และลักษณะของการทำ Decompression ในการดำน้ำแต่ละครั้ง
อากาศธรรมดา โดยทั่วไปแล้ว จะไม่ใช่ก๊าซที่เหมาะสมที่สุด ในการดำน้ำแบบ Tec โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำ Deco ด้วยอากาศธรรมดานั้น จะลำบากกว่าใช้ Nitrox เช่น อาจจะเสี่ยงต่อการเป็นเบนด์มากกว่า หรือว่าต้องใช้อากาศมากจน ไม่สามารถนำอากาศ ในปริมาณที่พอเพียงลงไปได้ เป็นต้น นักดำน้ำแบบ Tec จึงมักต้องใช้อากาศ
ที่มีส่วนผสมแตกต่างกันไป เพื่อให้มีเวลาในการดำน้ำให้นาน เพื่อลดเวลาในการทำ Deco หรือเร่งรัดกระบวนการทำ Deco นั่นเอง
อันดับแรกเลย นักดำน้ำแบบ Tec จะต้องมีความรู้ เรื่องความลึกที่นำมาใช้คำนวณ (Equivalent Air Depth: EAD) และความลึกสูงสุดของก๊าซที่ใช้หายใจ (Maximum Depth: MOD) ซึ่งความรู้เหล่านี้ จะเรียนมาก่อนในหลักสูตร Enriched Air Nitrox Diver Course แล้ว จากนั้น จึงหัดหาอัตราการบริโภคอากาศที่ผิวน้ำ (Surface Air Consumption: SAC) ของตัวเอง ซึ่ง SAC ของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากัน
จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่เริ่มต้น ก็ต้องเริ่มคำนวณ หาอะไรกันเยอะแยะไปหมดแล้ว นักดำน้ำแบบ Tec จะต้องรู้หลายเรื่องมากเลย ก่อนที่จะเริ่มดำน้ำ เช่น ต้องรู้ว่าตนมีอากาศลงไปในปริมาณเท่าไร เพียงพอต่อการใช้ดำน้ำในแต่ละครั้ง และมีสำรอง ในกรณีฉุกเฉินหรือเปล่า อากาศในแต่ละถัง สามารถใช้ได้ในความลึกเท่าไร ฯลฯ
นอกจากนั้น ยังต้องวางแผนไว้ เผื่อการเมาไนโตรเจน การวางแผน เพื่อป้องกันออกซิเจนเป็นพิษ หลายเรื่องที่ต้องนำมาใช้ ในที่นี้ จะได้เรียนมาก่อนแล้ว ในหลักสูตร Enriched Air Diver Specialty และหลักสูตร Deep Diver Specialty ซึ่งผู้ที่จะก้าวเข้ามาเรียน Tec จำเป็นต้องผ่านหลักสูตรเหล่านี้เสียก่อน
การจะดำน้ำแบบนี้ ความคิด และเจตคติของนักดำน้ำ จึงต้องมีความแตกต่างกับนักดำน้ำแบบ Rec โดยทั่วไปพอสมควร การที่จะดำน้ำ แบบวางแผนตามคอมพิวเตอร์ ดำจนอากาศเกือบหมด หรือดำตามสบาย แล้วค่อยจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายหน้า กลายเป็นเรื่องอันตรายร้ายแรง สำหรับการดำน้ำแบบ Tec นักดำน้ำแบบ Tec จำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า และดำน้ำตามแผน อย่างเคร่งครัด เช่น ต้องวางแผนเรื่องปริมาณก๊าซ ที่จะใช้หายใจอย่างที่กล่าวมาแล้ว ต้องวางแผนเรื่องความลึก และเวลา เรื่องระดับการทำ Deep Stop และ Deco Stop จนกระทั่ง ต้องมีการวางแผน และเขียน Run Time ว่า ณ เวลานี้ จะต้องมาอยู่ ณ จุดไหนของความลึกที่ดำน้ำ
จากเรื่องที่กล่าวมา การดำน้ำแบบ Tec นี้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้คุณสมบัติ หลายอย่างมากของนักดำน้ำ เช่น ต้องใช้ความแข็งแกร่ง และความฟิตของร่างกาย ต้องใช้ทักษะการดำน้ำในระดับสูง ต้องใช้ทักษะการคำนวณ และการวางแผน อย่างละเอียด และสุดท้ายต้องมีเจตคติ และวินัยในการดำน้ำที่เข้มข้น
คุณสมบัติทั้งหลาย เมื่อนำมารวมกัน ก็เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย หรือน่าท้อแท้ใจ สำหรับคนส่วนมาก แต่ก็มีคนอีกจำนวนมาก เช่นกัน ที่เห็นเป็นเรื่องท้าทาย และสำหรับคนที่ก้าวเข้ามาสู่โลกของการดำน้ำแบบ Tec แล้ว โดยส่วนมาก สิ่งที่ได้รับตอบแทน มักเป็นสิ่งล้ำค่า ที่คนทั่วไปไม่สามารถสัมผัสได้ โดยง่าย
Surface Air Consumption:SAC หามาทำอะไร
ก่อนอื่น เราก็ต้องมาเรียนรู้กันก่อนครับว่า SAC นี้ หามาได้อย่างไร วิธีการง่ายๆ ก็คือ ให้ดำลงไปที่ความลึกใดก็ได้ที่ชอบ เช่น ห้าเมตร สิบเมตร ยี่สิบเมตร ฯลฯ แล้วก็ทำการว่ายน้ำสบายๆ ไม่ต้องเร่ง และไม่ช้าเกินไป ที่ความลึกนั้น ตามเวลาที่วางแผนไว้ เช่น ห้านาที หรือสิบนาที ก่อนที่จะทำการทดสอบนี้ ต้องดูไว้ก่อนว่า อากาศของเรามีอยู่เท่าไร และเมื่อทำการทดสอบเสร็จ ก็กลับมาดูว่า เราใช้อากาศไปเท่าไรนั่นเอง หลังจากทำการทดสอบแล้ว เราก็เอาข้อมูลทั้งหมดที่มี มาทำการคำนวณ ซึ่งข้อมูลทั้งหมด จะมีความจุของถังอากาศที่ใช้ (เป็นลิตร) ความลึก (เป็นเมตร) เวลา (เป็นนาที) และปริมาณอากาศที่ใช้ไป (เป็นบาร์) โดยเราจะถือว่า SAC ที่หามาครั้งนี้เป็น SAC สำหรับการดำน้ำตามปกติ หลังจากนี้เราอาจหา SAC เวลาทำ Deco คืออยู่นิ่งๆ หรือหา SAC เวลาดำน้ำต้านกระแสน้ำ หรือดำน้ำด้วยความรวดเร็ว ก็ได้
เอาข้อมูลทั้งหมดมาเข้าสูตรต่อไปนี้
SAC = ปริมาณอากาศที่ใช้ไป (เป็น Bar) คูณด้วย ความจุของถังอากาศที่ใช้ (เป็นลิตร) แล้วเอาไปหารด้วยความกดดัน (เป็น ata) จากนั้น จึงเอาผลไปหารด้วยเวลา
เมื่อเราหา SAC มาได้แล้ว เราก็สามารถวางแผน จัดการกับปริมาณอากาศ ที่เราจะใช้ดำน้ำได้ อย่างปลอดภัย โดยการเอา SAC ไปคูณกับความกดดัน (ata) ณ ความลึกนั้น คูณกับเวลา ณ ความลึกนั้น เราก็จะได้ปริมาณอากาศที่จะต้องใช้ เอาปริมาณอากาศที่เราต้องใช้ ไปบวกกับปริมาณอากาศสำรอง ที่เราวางแผนไว้ เราก็จะรู้ทันทีว่า อากาศที่เราเตรียมไปนั้น จะเพียงพอสำหรับการดำน้ำไดฟ์นั้นหรือไม่
ในกรณีนี้ เราต้องมีถังต่างหาก สำหรับทำ Deco และสำหรับการขึ้นจากความลึกด้วยหรือถ้าหากเราจะใช้แท้งค์คู่ ที่เรามีอยู่นั้น ในการขึ้น และทำ Deco เราก็ต้องลดเวลาที่ความลึกลงไป เพื่อให้มีอากาศเหลือ สำหรับขึ้น และทำ Deco ด้วยการหาปริมาณอากาศที่เราจะใช้ ในการขึ้น และทำ Deco มาหักลบกลบหนี้กันก่อนด้วย
ส่วนปริมาณอากาศสำรองหนึ่งในสามนั้น ก็ต้องมีอยู่ครบถ้วนเวลาขึ้นสู่ผิวน้ำแล้ว อย่าเอาไปใช้ในการขึ้นหรือทำ Deco เพราะอันตรายร้ายแรงอย่างหนึ่ง ในการดำน้ำแบบ Tec ก็คือ การเอาสิ่งที่เก็บไว้ใช้สำรอง หรือเวลาฉุกเฉินมาใช้ พอฉุกเฉินเกิดขึ้นจริงๆ คราวนี้ก็จะไม่มีอะไรเหลือไว้ต่อชีวิต
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา SAC ที่หา ณ ความลึกสิบเมตร กับตอนไปหาที่ความลึกห้าสิบเมตร ก็ไม่ตรงกันสักเท่าไรนัก คงเพราะปัจจัยเรื่องความกดดัน ความกังวล การเมาไนโตรเจน ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เวลาหา SAC ก็เลยน่าจะลองหา ที่ความลึกต่างๆ หลายๆ ที่ด้วยจะดีกว่า
วิธีนำ SAC มาใช้
อันที่จริง สำหรับนักดำน้ำแบบ Rec นั้น การใช้ SAC แทบจะไม่จำเป็นเลย เนื่องจากเวลาดำน้ำ หากเราดู SPG บ่อยๆ เราก็จะรู้ว่าเมื่อไร จึงจะถึงเวลาที่จะขึ้นแล้ว นั่นคือ อากาศใกล้หมด ก็สมควรที่จะขึ้นได้เสียที เนื่องจาก การดำน้ำแบบ Rec นั้น ความจำเป็นในการทำ Deco นั้นไม่มี อากาศเหลือพอประมาณก็ยังสามารถขึ้นได้ โดยปลอดภัย
อย่างไรก็ดี ใช้วิธีการหาอะไรคล้าย SAC นี่มาใช้ สำหรับการดำน้ำแบบ Rec อยู่เหมือนกัน ก่อนที่นักดำน้ำ จะลงน้ำ ผมก็จะจดปริมาณอากาศของพวกเขาไว้ ใน Roster เมื่อขึ้นมาก็จดอากาศที่เหลือ เป็นการเช๊คอิน เช๊คเอาท์ไปในตัว เมื่อมาดูที่ Roster ก็จะรู้ว่าในกลุ่มแต่ละคน มี SAC เท่าไร แต่ SAC นี่จะเป็นการวัดปริมาณอากาศเป็น Bar หรือ psi อย่างเดียว คนละอย่างกับที่เล่าให้ฟังเมื่อครั้งที่แล้ว การหา SAC แบบนี้ก็ใช้ได้ หากทุกไดฟ์ใช้ถังอากาศแบบเดียวกัน แต่จะใช้ไม่ได้ กับการดำน้ำแบบ Tec เพราะการดำน้ำแบบนี้ เราใช้ถังอากาศหลายอย่าง บางทีก็เป็นถังคู่ บางทีก็ถังใหญ่ บางทีก็ถังเล็ก
เอาละ คราวนี้มาดูกัน ว่านักดำน้ำแบบ Tec นำเอา SAC มาใช้งานกันอย่างไร สมมติว่าผมจะวางแผนการดำน้ำ ดังต่อไปนี้
- 30 เมตร เป็นเวลา 50 นาที ก็จะต้องใช้อากาศทั้งหมด 4000 ลิตร
- ขึ้นมาทำ Deepstop ที่ 24 เมตร 2 นาที ใช้อากาศอีก 136 ลิตร
- ทำ Deco ที่ 19 เมตร 1 นาที ใช้อากาศ 58 ลิตร
- ทำ Deco ที่ 9 เมตร 4 นาที ใช้อากาศ 152 ลิตร
- ทำ Deco ที่ 6 เมตร 16 นาที ใช้อากาศ 512 ลิตร
- ทำ Deco ที่ 3 เมตร 32 นาที ใช้อากาศ 832 ลิตร
รวมแล้ว ก็ต้องใช้อากาศทั้งหมดในไดฟ์นี้ 5690 ลิตร หากจะต้องมีอากาศสำรอง เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินอีกหนึ่งในสาม ก็ต้องเป็น 8535 ลิตร
ก็จะสามารถคำนวณได้เลยว่า ไดฟ์นี้ต้องเอาอากาศไปทั้งหมด 4 ถัง เพราะถังหนึ่งจะมีอากาศอยู่ 2400 ลิตร
แต่ในความเป็นจริง นักดำน้ำแบบ Tec ก็มักไม่ใช้อากาศชนิดเดียว ในการดำน้ำแต่ละไดฟ์อากาศในการดำน้ำ ก็อาจจะเป็น Nitrox ที่เหมาะสมกับความลึก และอาจจะใช้ Nitrox ที่เข้มข้นกว่านั้น ในการทำ Deco เวลาในการทำ Deco ก็จะน้อยกว่าที่เห็นหลายเท่าเหมือนกัน อาจจะใช้อากาศไม่ถึงสี่ถังก็ได้
|